SUBARU 1.6 เท่ VERSION 4
ควบบล็อกอิมเพรสซ่า EJ20

LINE it!

      ถึงซูบารุจะมีชื่อเสียงเรื่องการแข่งขันแรลลี่ระดับโลกก็ตาม   แต่ในบ้านเรากลับไม่สามารถทำตลาดได้มากพอ  จึงมีเล่นกันเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบจริง   ๆ   ซึ่งถ้าเป็นรุ่นเก่าหน่อยก็มักจะมาเสริมแต่งแปลงโฉมกันให้เป็นเวอร์ชั่นที่ใหม่ขึ้น   หรือไม่ก็หันไปแต่งแบบเจ้าตัว   SUBARU  1.6 เพื่อไปใช้แข่งจิมคาน่าเลยยอมที่จะลงขุมพลังแรงจากอิมเพรสซ่า  พร้อมคุมด้วยกล่อง ECU UNICHIP รวมไปถึงช่วงล่างสมรรถนะเยี่ยมจากไต้หวัน
     

     แต่กว่าจะมาลงเอ่ยอย่างเห็นนี้เจ้าซูบารุ  1.6  ก็ได้รับคุมเข้มจากผู้เป็นเจ้าของอย่าง  คุณกำพล จันทร์เพ็ญประสาน   หรือ   "เอก   ซูบารุ"  ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญเฉพาะซูบารุ  และแน่นอนว่ารถของตนก็ต้องมีสเตปการแต่งที่ไม่เป็นรองใคร      โดยขุมพลังใหม่นั้นได้เคยวัดไดโนเทสต์   ซึ่งสามารถปล่อยม้าออกมาได้ถึง  268  ตัว ส่วนเปลือกนอกนั้นคบหาไม่มากแค่ลงกันชนหน้า-หลังตามเวอร์ชั่นพร้อมหางหลังเคฟล่าร์ก็ท้าท้ายได้แล้ว 


กันชนหน้า-หลังใส่ VERSION  4 
ล้อเลนโซ่โชว์หางหลัง E-SPEC 


    กับสารรูปภายนอกของรถรุ่นนี้แล้วอาจไม่เร้าใจให้ชวนมองได้ จึงหาทางออกด้วยการเพิ่มความหล่อโดยสลับกันชนหน้าให้เป็นของเวอร์ชั่น 4  ที่โดดเด่นในแบบกันชนฝังไฟสปอร์ตไลท์ดวงโต พร้อมช่องดักลมตรงกลางกับด้านข้างที่มีไฟเลี้ยว  แถมขอบล่างที่มุมกันชนยังมีช่องด้วย  พอขึ้นมาที่กระจังหน้าก็เปลี่ยน
ใหม่เป็นของ  STi ที่แปะโลโก้ชมพูกับกลุ่มดาว และไฟเลี้ยวมุมของ SPOC จาก U.S.A. ส่วนด้านข้างก็ได้โชว์ล้อแม็กขอบ  16 นิ้วของ LENSO ลาย 15 ก้าน ซึ่งรัดด้วยยางมิชชิลินขนาด 205  /45  R16 ตามมาด้วยการตัดสติกเกอร์ลายไฟเทา-แดงกับ DAIYAMA และ X-1R พร้อมกระจกส่องข้างสีดำ รวมไปถึงกระจกประตูหลังที่เน้นเป็นสีดำด้วย 
 


   สำหรับด้านหลังก็ไม่เว้นที่จะเติมความเท่ด้วยกันชนหลังในแบบเวอร์ชั่น   4  เช่นกันเพื่อให้แมทช์กับกันชนหน้า  โดยรูปทรงของกันชนหลังแล้วดูออกจะอวบใหญ่กำลังดีมีสเกิร์ตหลังที่ใต้กันชน แต่พอขึ้นมาที่ฝากระโปรงหลังได้สร้างสรรด้วยการยึดหางหลังที่โฉบเฉี่ยวของ  E-SPEC  ซึ่งมาในแบบเคฟลาร์ที่เพิ่ม
เสน่ห์เร้าใจให้กับด้านท้ายได้อย่างเต็มตัว  พร้อมกับขายึดแบบอลูมิเนียมที่มีน้ำหนักไม่มากจึงไม่เป็นภาระ แต่หางหลังสามารถช่วยกดอากาศด้านท้ายได้เช่นกัน
 


รีดรหัสแรง EJ20T ลงแคมใหม่ 
ทดเกียร์กับเฟืองท้ายจาก WRX 


     มาถึงขุมพลังถ้าติดรถซูบารุ  1.6  มานั้นเป็นเพียงเครื่อง  EJ16 กับขนาดเครื่อง 1600 ซีซี.ที่มอบแรงม้าให้วิ่งแค่  107 ตัวเท่านั้น ซึ่งจะเพิ่มความแรงด้วยการโมดิฟายคงได้ไม่มากพอ เลยตามคอนเซปส์ด้วยการวางเครื่องตัวแรงเข้าไปแทน  แต่งานนี้ยังคงลงเครื่องตระกูลเดียวกันในแบบ BOXER F4 กับรหัส  EJ20T ที่พ่วงเทอร์โบมาด้วย กับขนาด 2000 ซีซี. DOHC 16 VALVE โดยสามารถรีดแรงม้าออกมาได้เต็มที่ถึง  260  ตัวทีเดียวที่ 6,500 รอบ/นาที พร้อมกับแรงบิดในการกระชากออกตัว 31.5 กก.-ม.ที่ 5,500 รอบ/นาที

     จากนั้นก็มาจัดการโมดิฟายกับส่วนบนของเครื่องด้วยการเปลี่ยนแคมชาร์ฟองศาสูงแบบ 269 องศาที่เป็นของแต่งจาก  JUN ซึ่งเป็นสำนักแต่งชื่อดัง เพื่อช่วยให้การเปิดไอดี-ไอเสียได้นานขึ้น ในส่วนของเกียร์แมนนวลแบบ   5  สปีดก็ทำการทดใหม่ให้เป็น  4.444  พร้อมกับเฟืองท้ายที่มีอัตราทด  4.444 
LIMITED  มาจาก SUBARU WRX  
 


ปรับบูสท์ NITO โบล์ออฟฯ SARD
คุมแรงดันนิสโม เพิ่ม UNICHIP 

 
   สำหรับอุปกรณ์ที่มาช่วยเสริมนั้นได้อาศัยเวสต์เกจของ  NITO  ที่ปรับบูสท์ไว้ที่ 1.0 บาร์ ส่วนไอเสียนั้นปล่อยผ่านท่อที่ขยายเป็น   2.5  นิ้ว  แต่ถ้าเป็นไอดีที่เหลือใช้ได้มอบหมายให้โบล์ออฟวาล์วของ SARD  ทำหน้าที่แทน  ส่วนกรองอากาศเปลือยเลือกใช้ของ  K&N  และอินเตอร์คูลเลอร์ที่วางอยู่เหนือ
เครื่องนั้นเป็นของแต่งจาก  STi ที่มีความหนาถึง 3 นิ้ว 

     มาที่ระบบจุดระเบิดได้ปรับมาใช้หัวเทียนยี่ห้อ   SPRITFIRE   ตามระบบเชื้อเพลิงที่หันมาใช้ปั๊มจ่ายน้ำมันเป็นของ BOSH   พร้อมกับเรกกูเลเตอร์จาก   NISMO   โดยทั้งหมดจะต้องอยู่ในการควบคุมของกล่อง   ECU UNICHIP ซึ่งมีอาจารย์สุทัศน์เป็นผู้จูน   เพื่อให้สมรรถนะในการทำงานของเครื่องยนต์เพิ่มมากขึ้น 


ครัชต์ลง Sti  ติดจานเบรค HKS 
เสริมล่างแน่นยึดโช้ค  DAIYAMA              


     นอกจากเครื่องยนต์จะให้กำลังมากพอแล้ว  ถัดมาก็ต้องมาดูที่ระบบถ่ายทอดกำลัง ซึ่งมีความหมายไม่น้อยจึงได้คบหากับของแต่งซูบารุจาก   STi   แบบซิงเกิ้ลเพลท  ที่มีแผ่นครัชต์แบบ  4  แฉก  สามารถตอบสนองในการจับได้แน่นและปล่อยไวพอตัว โดยสามารถเล่นครัชต์ให้กระโดดก็ยังได้สำหรับระบบ
เบรคที่ด้านหน้าได้ปรับเปลี่ยนมาใช้จานเบรคโตของ  HKS  ที่มีร่องระบายความร้อน  และต้องอาศัยผ้าเบรคเกรดเอของ ENDLESS มาร่วมทำงานด้วย  

     ในขณะเดียวกันระบบช่วงล่างก็เป็นส่วนที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน      จึงต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีฃมาตรฐานจากไต้หวัน  เริ่มด้วยโช้คหน้าแบบคอยล์โอเวอร์ของ  DAIYAMA กระบอกดำพร้อมสปริงที่มีค่า K  อยู่  10  K ซึ่งมีความแข็งใช้ได้ ส่วนโช้คหลังก็เป็น DAIYAMA เหมือนกันแต่กระบอกสีม่วงที่มีค่า K 
ของสปริงอยู่ที่ 8 K แบบนิ่มลงมาหน่อย และที่หัวโช้คยังติดบอลจอยท์ให้ปรับแคมเปอร์ได้อีกด้วย




     ภายในห้องโดยสารตามสไตล์รถแข่งไม่อยากเซดหาความสวยงามแทบไม่ได้  และยังได้ถอดเบาะหลังออกเพื่อลดน้ำหนัก  โดยของแต่งที่เปลี่ยนไปก็เห็นจะเป็นพวงมาลัย  OMP  แบบ 3 ยก กับหัวเกียร์กลมสีดำของ eifel ติดเกจ์วัดบูสท์ที่คอพวงมาลัยของ BLITZ ส่วนแป้นเหยียบอาศัยของ SPARCO
     เป็นแค่เพียงซูบารุ 1.6 แต่เล่นแฝงพลังเครื่องบ๊อกเซอร์เวอร์ชั่นใหม่ก็สามารถประกาศความแรงได้เกินตัวแล้ว     สนใจตกแต่งซูบารุ พร้อมอุปกรณ์แต่ง ติดต่อนายเอก โทร.0-6315-5060

แกลเลอรี่ :